ร้านขายของออนไลน์ประเภทไหนที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

ร้านขายของออนไลน์ประเภทไหนที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

ปัจจุบันอาจจะมีคนที่ยังงง ๆ อยู่ว่าขายของออนไลน์แบบไหน ขายผ่านช่องทางไหนบ้าง ขายอะไรที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์บ้าง

หากธุรกิจหรือกิจกรรมการขายของออนไลน์ ที่ขายผ่านเว็บไซต์ หรือ Social Media ต้องจดทะเบียนพาณิชย์สำหรับธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์  และสามารถขอเครื่องหมายรับรองการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้นั้น เว็บไซต์ หรือ Social Media ที่ใช้ในการขายของต้องมีระบบดังต่อไปนี้

  • มีระบบการสั่งซื้อ เช่น ระบบกรอกฟอร์ม ระบบตะกร้า อีเมล์ หรืออื่น ๆ
  • มีระบบการชำระเงิน ออฟไลน์ หรือ ออนไลน์ เช่น การโอนเงินผ่านระบบบัญชี การชำระด้วยบัตรเครดิตหรือ e-cash เป็นต้น
  • มีระบบสมัครสมาชิก เพื่อรับบริการข้อมูลหรืออื่น ๆ โดยมีการคิดค่าใช้จ่าย (ถือเป็นการขายบริการ)
  • มีวัตถุประสงค์หลักในการรับจ้างโฆษณาสินค้าหรือบริการของผู้อื่น และมีรายได้จากการโฆษณานั้น
  • รับจ้างออกแบบเว็บไซต์ หรือเพียงโฆษณาว่าเป็นผู้รับจ้างออกแบบเว็บไซต์ (ถือว่าการออกแบบเว็บไซต์นั้นมีช่องทางการค้าปกติบนอินเทอร์เน็ต)
  • เว็บไซต์ให้บริการเกมส์ออนไลน์ที่คิดค่าบริการจากผู้เล่น (เจ้าของเว็บไซต์ต้องจดทะเบียน)
  • เว็บไซต์ที่มีการส่งมอบสินค้าหรือบริการผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น การ Download เพลง โปรแกรม เกมส์ Ringtone Screensaver SMS เป็นต้น

หากเว็บไซต์ของคุณมีระบบดังกล่าวข้างต้น ต้องเตรียมตัวจดทะเบียนพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ ให้ถูกต้องนะคะ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ชื้อในการซื้อสินค้าของเราค่ะ สำหรับการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ สามารถดูขั้นตอนได้ตามนี้ค่ะ จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ก่อนจะจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คุณต้องสร้างเว็บไซต์ หรือหน้าร้านออนไลน์กันก่อน โดยทำเว็บไซต์ให้เสร็จเรียบร้อยพร้อมออนไลน์ ซึ่งคุณมีเวลายื่นขอจดทะเบียนพาณิชย์สำหรับธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันเริ่มประกอบการค่ะ

ส่วนสำหรับร้านออนไลน์ ที่ไม่เข้าข่ายต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ก็คือ ร้านค้าที่ไม่มีระบบ ดังข่าวข้างต้น

  • มีเฉพาะหน้าร้านโชว์สินค้าของตนเอง แต่ทำการค้าในช่องทางปกติ (ไม่ใช่อินเทอร์เน็ต) แม้จะมีข้อความแจ้งว่าให้ติดต่อได้ เช่น สนใจโทร.ติดต่อ… หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ….
  • การประชาสัมพันธ์หรือเผยแพร่ข้อมูลแก่สมาชิกหรือบุคคลทั่วไป โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายหรือบริการ เช่น  เพื่อการสอน ประกาศรับสมัครงาน
  • การประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท หรือสินค้า
  • เว็บไซต์ส่วนตัว (ส่วนบุคคล) ที่สร้างขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว การงาน การศึกษา หรือความสนใจส่วนตัว
  • เว็บไซต์ที่เป็นสื่อกลางด้านข้อมูล โดยมีจุดประสงค์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยไม่มีการเสียค่าสมาชิกหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ

ที่มาข้อมูล https://www.trustmarkthai.com

ภาพจาก www.pixabay.com